โรคเก็บตัว หรือที่รู้จักกันในภาษาญี่ปุ่นว่า “ฮิคิโคโมริ” เป็นปรากฏการณ์ที่คนจำนวนมากโดยเฉพาะในญี่ปุ่นเลือกที่จะถอนตัวออกจากสังคมและใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องของตนเองเป็นเวลานาน บางครั้งอาจยาวนานเป็นปีหรือหลายปี โดยไม่ออกไปทำงานหรือเรียน และไม่ติดต่อสื่อสารกับผู้คนภายนอก โรคนี้มักเกิดขึ้นกับวัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว แต่อาจเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่านั้นด้วย
สาเหตุของโรคเก็บตัวมีหลายประการ ทั้งจากสภาพจิตใจและสังคมในญี่ปุ่น หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือแรงกดดันทางสังคมและครอบครัว ในญี่ปุ่น
มีความคาดหวังสูงต่อการศึกษาและความสำเร็จในชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านวัฒนธรรมที่ทำให้การแสดงออกทางอารมณ์ถูกจำกัด เมื่อคนบางคนรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคมได้ พวกเขาอาจเลือกที่จะหนีจากสถานการณ์เหล่านั้นโดยการเก็บตัวอยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือ ห้องของตนเอง
การแพร่หลายของโรคเก็บตัวในญี่ปุ่นอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม การเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดแรงงาน และการขาดแคลนโอกาสทำให้คนหนุ่มสาวจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ตลาดงานได้ตามที่คาดหวัง อีกทั้งระบบการศึกษาที่เน้นความสำเร็จอย่างเข้มงวด และความกดดันจากครอบครัวที่ต้องการเห็นลูกหลานของตัวเอง ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำให้บางคนเลือกที่จะปลีกตัวออกจากสังคม
การป้องกันโรคเก็บตัวควรเริ่มจากการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและเข้าใจต่อความรู้สึกของคนหนุ่มสาว ครอบครัวควรมีบทบาทในการสนับสนุนและให้กำลังใจ โดยไม่เพิ่มแรงกดดันทางด้านการศึกษาและการทำงาน การส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะในการจัดการกับความเครียด
และปัญหาทางอารมณ์ การสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกทางความรู้สึก และการสื่อสารอย่างเปิดเผยระหว่างสมาชิกในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับการรักษาโรคเก็บตัว การช่วยเหลือโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ การทำจิตบำบัดหรือการให้คำปรึกษา (counseling) อาจช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าใจและจัดการกับสาเหตุที่ทำให้เกิดความเก็บตัว การบำบัดด้วยวิธีการเจรจาและการฝึกทักษะสังคม (social skills training)
อาจช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาเชื่อมโยงกับสังคมได้ นอกจากนี้ การสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้ป่วย
โดยสรุป โรคเก็บตัวเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางจิตใจและสังคม โดยเฉพาะในวัฒนธรรมที่มีความคาดหวังสูงเช่นในญี่ปุ่น ดังนั้นการป้องกันและรักษาโรคนี้ผู้ที่ป่วยจึงต้องการการสนับสนุนที่ครอบคลุมทั้งจากครอบครัว สังคม และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตนั่นเอง
สนับสนุนเนื้อหาโดย เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่