สำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการขับรถเมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วม ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่มีความชำนาญไม่มีความระมัดระวังก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
อันดับแรกเลยเราจะต้องดูสภาพรถของเราก่อนว่ารถของเรานั้นสามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้หรือไม่เพราะรถยนต์แต่ละคันนั้นมีความสามารถในการลุยน้ำท่วมที่มีความสูงแตกต่างกันออกไป
โดยถ้าหากว่ารถเราเป็นรถยนต์ขนาดเล็กคันไม่ใหญ่มากนักความสามารถในการลุยน้ำท่วมนั้นจะมีน้อยมากโดยเราไม่ควรขับรถลุยน้ำเกินความสูง 15 เซนติเมตรแต่ถ้าหากว่าเราขับรถกระบะหรือรถออฟโรดนั้นความสูงก็ควรจะไม่เกิน 20 ถึง 30 ซมเท่านั้นและที่สำคัญถ้าเราจำเป็นที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วมนั้นอย่าลืมว่าคุณควรที่จะต้องปิดแอร์ด้วยเพื่อที่จะไม่ให้น้ำซัดเข้าไปโดนระบบไฟฟ้าของตัวรถ
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ควรระวังเพิ่มเติมนั่นก็คือถ้าหากว่าเรารู้ว่าน้ำมันท่วมสูงมากเราก็ไม่ควรที่จะฝ่าฝืนขับรถลุยน้ำท่วมแต่เมื่อใดก็ตามที่มีความจำเป็นมากที่จะต้องฝ่าไปให้ได้ต้องขับรถด้วยความช้าโดยเลือกใช้เกียร์ต่ำๆเพราะโอกาสที่คลื่นน้ำจะกระเซ็นเข้ามาภายในตัวรถของเรานั้นมีเยอะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าเป็นถนนที่วิ่งสวนเลนกันไปมาโอกาสที่รถยนต์อีกคันนึงจะวิ่งสวนแล้วทำให้เกิดขึ้นน้ำมากระเซ็นที่รถของเรานั้นก็มีส่งเช่นเดียวกันดังนั้นเราจึงควรขับรถด้วยความช้าๆและระมัดระวังเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจุดที่เราขับรถลุยไปนั้นน้ำจะไม่ท่วมเยอะมากนักและไม่สร้างอันอันตรายให้กับตัวรถได้แต่ก็ไม่ควรขับรถเร็วเช่นเดียวกันเพราะอาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นได้เช่นคนขับรถมอเตอร์ไซค์หรือแม้แต่คนเดินทางเท้าก็อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำที่กระเซ็นจากการวิ่งของรถยนต์ของเราได้เพราะฉะนั้นขับไปช้าๆจะเป็นการดีที่สุด
สำหรับใครที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วมไปนั้นถ้ามีรถยนต์คันอื่นวิ่งไปกับเราด้วยถ้าหากว่าเราตามหลังรถยนต์คันอื่นเราก็ควรที่จะเว้นระยะห่างจากรถยนต์คันอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 500 เมตรเนื่องจากว่าเวลาที่รถของเราลุยอยู่ในน้ำนั้นเบรคของรถยนต์จะมีการแช่น้ำอยู่ตลอดเวลา โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันนั้นจึงเกิดได้ง่ายเพราะประสิทธิภาพการทำงานของเบรคจะไม่ดีเหมือนตอนที่อยู่บนท้องถนนปกติ
นอกจากนี้ถ้าหากว่าเราสามารถฝ่าน้ำท่วมไปได้แล้วและถึงที่หมายโดยเสรีภาพ อย่าเพิ่งดับเครื่องทันทีเพราะจะสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้เราควรจะต้องมีการจอดแล้วติดเครื่องยนต์เอาไว้สัก 15-20 นาทีก่อนเพื่อเป็นการไล่ความชื้นออกจากตัวรถของเรา
สนับสนุนเนื้อหาโดย ตรวจสุขภาพประจำปี