การฉีดวัคซีนโควิด-19 แน่นอนว่าการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก โควิด-19 ที่ดีที่สุด คือ การดูแลตนเอง รักษาความสะอาด สวมใส่หน้ากากอนามัย และเลี่ยงการไปที่คนพลุกพล่าน แต่ถึงแม้กระนั้นเราก็ยังสามารถมีโอกาสจะติดเชื้อได้อยู่ ตัวเลือกเสริมต่อมา คือ การ ฉีดวัคซีน เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งหลาย ๆ คน คงกังวลว่าฉีดแล้วจะเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นโรคใหม่ ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความลังเลใจ วันนี้เรามาเตรียมพร้อมกัน
การเตรียมการก่อนฉีดยา
– 2-3วันก่อนได้รับการฉีดยาแล้ว ควรจะงดเว้นการบริหารร่างกายแบบหนัก ๆ และก็นอนเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน
– การฉีดยาหรือวัคซีนควรจะห่างกับการได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างต่ำ 14 วัน
– พกบัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย และก็ข้อมูล สำคัญ คือ ควรแจ้งเรื่องราวแพ้ยา โรคประจำตัวกับเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ก่อนจะมีการฉีดยา
– แจ้งเรื่องราวแพ้ยา โรคประจำตัวกับเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ ในกรณีที่ฉีดยาเข็มแรกแล้วมีลักษณะเหมือนจะแพ้ หรือพบความผิดปกติ
– ควรจะสวมเสื้อแขนสั้น เพื่อเปิดต้นแขนได้สบาย
– หากถนัดขวา ให้ฉีดที่ต้นแขนซ้าย หากถนัดซ้าย ให้ฉีดที่ต้นแขนขวา
– ในวันที่ฉีดควรจะกินน้ำขั้นต่ำ 500 – 1,000 CC งดเว้นการดื่มชา กาแฟ หรืออะไรก็ตามที่มีคาเฟอีน รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์
– หากรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ให้รับประทานยาตามธรรมดา แต่ว่าเมื่อได้รับการฉีดแล้ว ให้ทำการกดนิ่ง ๆ บริเวณจุดที่เข็มทิ่มลงไปต่ออีก 5 นาที
ข้อมูลที่จำเป็นต้องแจ้งก่อนรับการฉีดยา
– โรคประจำตัว
– เคยป่วยด้วย ด้วยโรคลิ่มเลือดหรือ หากำลังทานยารักษาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดอยู่
– เรื่องราวแพ้ยา วัคซีน หรือสารอื่น ๆ ที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการแพ้ร้ายแรงจนกระทั่งบางทีอาจอันตรายถึงชีวิต
– เป็นผู้มีภูมิต้านทานต่ำ หรืออยู่ระหว่างใช้ยากดภูมิต้านทาน
– ตั้งท้อง วางแผนกำลังจะมีบุตร หรือพึ่งคลอด ต้องให้นมลูกอยู่
– มีลักษณะแพ้หรือผิดปกติบางอย่าง ภายหลังฉีดยาเข็มแรก
– มีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บป่วยไข้ทันควันก่อนเข้ารับการฉีดยา (ถ้าเกิดมีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บป่วยไข้ร้ายแรง ทางคุณหมออาจพินิจพิเคราะห์ให้เลื่อนการฉีดยาออกไปก่อน)
กรุ๊ปใดที่คุณหมอยังไม่ชี้แนะให้เข้ารับการฉีดถ้าไม่มีความจำเป็น
– คนที่มีลักษณะอาการแพ้ร้ายแรงจากการฉีดยาวัคซีนโควิด-19 เมื่อคราวก่อนหรือแพ้สารบางอย่างของวัคซีน
– คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยแบบกะทันหันและก็อาการยังไม่ดีขึ้น
– คนที่มีโรคประจำตัวแล้วอาจมีการกำเริบอยู่ หรืออาการเข้าขั้นวิกฤต
– คนที่ได้รับยากดภูมิต้านทานปริมาณสูง
กรุ๊ปพวกนี้ควรจะอยู่ในดุลยพินิจของหมออย่างใกล้ชิด และก็ควรจะขอคำแนะนำจากคุณหมอประจำตัว เพื่อให้มีการพินิจพิเคราะห์ว่าควรได้รับการฉีดยาหรือไม่ เป็นรายคนตามความเหมาะสม ในส่วนที่คนที่ได้รับยาเกี่ยวกับการป้องกันการแข็งตัวของเลือด ก็สามารถฉีดยาได้ แม้กระนั้นเสนอแนะให้คุณหมอช่วยตัดสินใจ
สนับสนุนโดย. หูตึงแก้ไข